คลังเก็บหมวดหมู่: กีฬา

3 อาการที่พบบ่อยจากการเล่นกีฬา

การเล่นกีฬา ถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะการเล่นกีฬาถือเป็นสิ่งที่ดีที่เราควรทำ เพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รวมไปถึงการช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย

เพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง ปลอดภัยและห่างไกลจากโรคร้ายได้ แต่เมื่อไหร่ที่เราเล่นกีฬาหนักเกินไป หรือหักโหมกับการเล่นกีฬาเกินไป

เพราะคิดว่าการเล่นกีฬา หากเราเล่นมาก ๆ ก็จะยิ่งทำให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราเล่นกีฬามากเกินไป นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการทำร้ายสุขภาพร่างกายแล้วนั้น ยังอาจทำให้การเล่นกีฬาไม่มีประสิทธิภาพที่ดีอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นคือ อาจส่งผลกระทบต่อการทำร้ายกล้ามเนื้อ หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้เกิดความเสียหายอีกด้วย ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าหากเราเล่นกีฬาอย่างหนัก จะมีอาการไหนบ้างที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการเล่นกีฬา เพื่อที่เราจะได้รู้และป้องกันได้ทัน จะมีอาการไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

อาการบาดเจ็บของข้อต่อหรือเอ็น ส่วนใหญ่แล้วคนที่เล่นกีฬาจะรู้ดีว่าอาการที่มักเกิดขึ้นบ่อยหากเราเล่นกีฬาอย่างหนัก นั่นก็คือ อาการข้อต่อ หรือเอ็นเกิดการฉีกขาด เพราะเนื่องจากว่าบริเวณข้อต่อ หรือเอ็นของเรานั้นเป็นบริเวณที่ต้องใช้ในการปะทะ หรือใช้ในการกระแทก

โดยเฉพาะการเล่นกีฬาฟุตบอล หรือกีฬาที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของร่างกาย ดังนั้น ยิ่งถ้าเราไปหักโหมกับการเล่นจนเกินไปก็จะยิ่งทำให้ข้อต่อ หรือเอ็นของเราเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย โดยเฉพาะข้อเท้า

อาการบาดเจ็บที่หลัง นักกีฬาส่วนใหญ่มักที่จะใช้ร่างกายบริเวณเอว ไหล่ หรือแม้แต่ลำตัว เพื่อคลื่อนไหวในการเล่นกีฬา ซึ่งแน่นอนว่านักกีฬาส่วนใหญ่จะเกิดอาการดึง หรือเกร็งขึ้นบริเวณหลัง หรือกระดูกสันหลัง

ยิ่งถ้าเราไม่ได้ทำการวอร์มร่างกายก่อนก็อาจทำให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บอย่างหนักได้ ดังนั้น อาการปวดหลังจึงเป็นอาการที่ถือว่าเกิดขึ้นได้บ่อยมาก ๆ เมื่อเราเล่นกีฬาอย่างหนัก 

อาการเส้นเอ็นฉีกขาด อาการเส้นเอ็นฉีกขาก เป็นอาการที่ถือว่ามีคามอันตรายต่อร่างกายเราเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากว่ากล้ามเนื้อภายในร่างกายของเราเกิดการฉีกขาด หรือได้รับบาดเจ็บ จะทำให้สภาพร่างกายในการใช้ชีวิตนั้นเกิดแย่มากไปกว่าเดิม และจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลาที่นานพอสมควร

ฉะนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การเล่นกีฬาแต่เพียงพอดี เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายที่สุดแล้ว ไม่ควรไปหักโหมเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายได้ 

 

สนับสนุนโดย.    ทดลองเล่นสล็อต gclub

ลูกไม่ชอบเล่นกีฬาควรทำอย่างไรดี

รู้หรือไม่ว่านอกจากการออกกำลังกายนั้น การเล่นกีฬาก็มีความสำคัญและจำเป็นต่อเราเป็นอย่ามาก เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างทักษะทางด้านสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ ยังสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านสุขภาพจิต หรือส่วนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

อีกทั้งยังช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ผ่อนคลาย  ลูกไม่ชอบเล่นกีฬา   ช่วยให้รู้สึกดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ขอบอกเลยว่านอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังมีความจำเป็นอย่างมากที่เราควรเล่นเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ชอบเล่นกีฬาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรหมั่นทำเป็นประจำ

แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบเล่นกีฬา หรือไม่ได้ให้ความสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ บ้านก็อาจมีปัญหาที่ว่าลูก ๆ ไม่ชอบเล่นกีฬา ไม่รู้ว่าจะหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจจากลูกให้หันมาสนใจในการเล่นกีฬาอย่างไร และวันนี้เราก็ได้มีเคล็ดหรือวิธีการง่าย ๆ มาแนะนำสำหรับลูกไม่ชอบเล่นกีฬา ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ จะมีวิธีไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

การสร้างความคุ้นเคย สำหรับบ้านไหนที่อยากทำให้ลูก ๆ นั้นหันมาสนใจในการเล่นกีฬามากขึ้น ลองเริ่มต้นด้วยการสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬา เช่น ลองออกไปเล่นกีฬาสักประเภทบ่อย ๆ ถึงแม้ว่าแรก ๆ อาจจะไปได้ไม่ค่อยดีมากนัก

แต่ขอบอกเลยว่าหากเราได้ลองเล่นมันบ่อย ๆ หรือคุ้นเคยไปกับการเล่น รับรองได้เลยว่าลูกของคุณนั้นจะต้องหันมาสนใจในการเล่นกีฬามากขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะการสร้างความคุ้นเคยก็เหมือนกับการเพิ่มกิจกรรม ๆ หนึ่งเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน

การเล่นกีฬากับลูก การปล่อยให้ลูกเล่นกีฬาคนเดียว อาจจะทำให้ลูกของเรานั้นรู้สึกเบื่อง่าย เพราะถึงแม้จะเป็นกีฬาที่ลูกชอบก็ตาม ทางที่ดีควรเล่นกับลูกไปเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ หรือการเล่นเป็นทีม พ่อแม่ก็ควรให้ความสนใจ

หรือเลือกที่จะเล่นกับลูกไปเลย เพื่อให้ลูกได้เกิดความสนุกสนาน เกิดความเพลิดเพลิน รู้สึกปลอดภัย หรือรู้สึกอุ่นใจเมื่อพ่อแม่เล่นด้วย ไม่แน่หากเล่นแบบนี้บ่อย ๆ ลูกอาจจะชอบการเล่นกีฬามากขึ้นก็ได้ 

การมองหากีฬาที่ลูกชอบ หากไม่แน่ใจว่าลูกชอบเล่นกีฬาแบบไหน ก็ลองสังเกตว่าลูกให้ความสนใจในกีฬาประเภทไหน หรือในรูปแบบไหน และพ่อแม่ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับลูกเพื่อช่วยเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกมีความอยากในการเล่นกีฬามากขึ้น

หรืออาจจะเป็นการเล่นกีฬาสลับสับเปลี่ยนกับการทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดความน่าเบื่อ แต่ถ้าจะให้ดีลองเปิดโอกาสให้เขาได้ลองเล่นกีฬาที่สนใจ หรือกีฬาที่ชอบ ถ้าเขารู้สึกดีก็สามารถนำไปต่อยอดได้ไม่ยาก 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

3 วิธีวิ่งอย่างไรไม่ให้ปวดเข่า

กีฬาวิ่ง เป็นอีกหนึ่งในกีฬาที่หลาย ๆ คนนั้นเลือกเป็นกิจกรรมไว้เล่นในเวลาว่าง ๆ โดยปกติแล้วกีฬาประเภทนี้ก็เปรียบเสมือนกับการออกกำลังกายประเภทหนึ่งที่สามารถช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ และช่วยในการบำรุงข้อ และกระดูกของเราให้แข็งแรงได้อีกด้วย 3 วิธีวิ่งอย่างไรไม่ให้ปวดเข่า

โดยเฉพาะคนที่อายุเยอะ เหมาะมาก ๆ ที่จะเลือกเล่นกีฬาประเภทนี้ เพราะเป็นกีฬาที่สามารถเลือกเล่นได้หลายประเภท จึงอาจเกิดความอันตรายต่อร่างกายได้น้อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วคนที่เล่นกีฬาประเภทนี้มักที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดข้อ หรือปวดเข่า

จากการวิ่ง ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่รู้หรือไม่ว่า อาการนี้หากปล่อยไว้ไม่เข้ารับการรักษาอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต อีกทั้งยังเป็นผลเสียในระยะยาวได้อีกด้วย

ดังนั้น หากใครที่กำลังเข้าสู่วงการการวิ่ง ขอบอกเลยว่าควรศึกษาวิธีการวิ่งให้เข้าใจก่อน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่าจะมีวิธีไหนกันบ้างที่สามารถช่วยป้องกันการวิ่งอย่างไรไม่ให้เราปวดเข่า ไปดูกันเลย

การเลือกสถานที่ให้เหมาะสม สถานที่ในการวิ่งนั้นสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะคนที่ข้อ เข่า หรือกระดูกไม่ดี เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอาการปวดเข่า ควรเลือกวิ่งในสถานที่ที่มีพื้นเสมอกัน หรือพื้นวิ่งควรเป็นพื้นยาง เพราะพื้นเหล่านี้จะมีความนุ่ม และสามารถช่วยให้เรามีการทรงตัวที่ดีมากขึ้นกว่าการวิ่งบนทางคอนกรีต ดังนั้น ก่อนที่จะออกไปวิ่งที่ไหนสักที่ ควรเลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุดจะดีมาก 

ไม่ควรวิ่งก้าวยาวเกินไป กีฬาวิ่งที่ถูกต้องและวิ่งอย่างไรไม่ให้รู้สึกมีอาการปวดตามบริเวณต่าง ๆ หรือรู้สึกปวดตามข้อต่าง ๆ คือการที่เราไม่ควรวิ่งก้าวยาวเกินไป หรือไม่ควรวิ่งยกเข่าสูง เพราะจะยิ่งส่งผลให้ข้อของเรานั้นงอมากขึ้น จนส่งผลกระทบให้มีปัญหาได้นั่นเอง ดังนั้น เพื่อช่วยลดอาการปวดจามข้อตาม ๆ ควรวิ่งก้าวแต่พอดี หรือก้าวไปข้างหน้าอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยลดปัญหาอาการปวดต่าง ๆ 

การยืดกล้ามเนื้อให้เพียงพอ การที่เรายืดเส้นยืดสายก่อนทำการวิ่ง โดยเฉพาะตลบริเวณหัวเข่าหรือข้อต่าง ๆ อย่างน้อย 15-20 นาทีก่อนการวิ่ง จะเป็นการช่วยให้เส้นตรงบริเวณข้อของเรานั้นเกิดการยืด และจะไม่ทำให้เรารู้สึกปวดหลังการวิ่ง ดังนั้น ยิ่งถ้าใครที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดเข่า ปวดข้อ หรือปวดตามร่างกายหลังการวิ่ง ออกกำลังกาย หรือการเล่นกีฬา ควรที่จะทำการยืดเส้นยืดสายก่อน เพื่อคลายเส้นตามบริเวณนั้น ๆ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.   สมัคร sbobet โดยตรง

เล่นกีฬาอย่างไรให้สุขภาพดี

การเล่นและการแข่งขันกีฬานั้นเป็นสิ่งที่จะสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดีอยู่แล้วแต่ในบางครั้งก็อาจจะเห็นคนที่เล่นกีฬาหรืออกกำลังกายนั้นไม่ได้มีสุขภาพดีทุกคนเสมอไปเพราะด้วยประเภทกีฬาการรับประทานอาหารและปัจจัยอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้คนเล่นกีฬานั้นอาจจะเสียสุขภาพได้ ดังนั้นแล้วถ้าหากต้องการเล่นกีฬาและมีสุขภาพที่ดีนั้นควรทำอย่างไรและต้องปฏิบัติตนอย่างไรเมื่อมีการเล่นกีฬาประเภทต่างๆเพื่อให้สุขภาพดีด้วย

รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเล่นกีฬาในเยื่องต้นเพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมที่ดีที่จะสามารถเล่นกีฬาและออกกำลังกายได้ อาหารที่ดีหมายถึงอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและให้พลังงานที่คุ้มค่า โดยสำหรับคนที่เล่นกีฬาและออกกำลังกายนั้นควรจะรับประทานอาหารประเภทโปรตีนเป็นหลักเพื่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อการเล่นกีฬสาและออกกำลังกายได้อย่างสุขภาพดีนั่นเอง

เลือกประะเภทกีฬาที่เหมาะสมจะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น ถึงแม้การเล่นกีฬาและการออกกำลังกายนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดีอยุ่แล้วนั้น แต่การเลือกประเภทจะยิ่งเป้นการส่งเสริมให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้นถ้าหากเรามีการเลือกประเภมกีฬาและการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวเราโดยการเลือกเล่นกีฬาให้เหมาะสมกับตัวเรานั้นก็คือการเลือกกีฬาที่เอิ้อำนวยทั้งในด้านสรีระร่างกายและความชอบของเราด้วย เพราะถ้าหากเรามีการเลือกกีฬาที่เหมาะกับสรีระร่างกายแล้วนั้นจะทำให้การเล่นกีฬาช่วยให้สุขภาพดีเนื่องจากเป็นกีฬาที่เหมาะกับร่างกายของเรา

เล่นกีฬาออกกำลังกายพอประมาณไม่มากไปและไม่น้อยไป บางครั้งการที่ทำให้คนเล่นกีฬาและเสียสุขภาพนั้นก็มาจากการเล่นที่มากไปและน้อยไป บางคนก็หักโหมเล่นกีฬาเอาเป็นเอาตาย ทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนล้าสะสมและอาจจะเกิดเป็นโรคหรือมีอาการต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพตามมาภายหลังได้และสำหรับคนที่ออกน้อยไปก็ไม่ดีก็จะทำให้ร่างกายไม่เกิดความแข็งแรงและมาสมดุล ดังนั้นแล้วการออกกำลังกายที่เหมาะสมคือการออกกำลังกายเท่าที่ร่างกายของเรานั้นรับไหว

ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง แน่นอนว่าอะไรก็ตามที่เรามีการทำอย่างต่อเรนื่องมักจะได้ผลัพธ์ที่ดีเสมอ ดังนั้นแล้วการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายก็เช่นเดียวควรมีการทำอย่างติ่เนื่องก็จะสามารถเห็นผลัพธ์ในเรื่องสุขภาพและร่างกายได้

ให้ร่างกายได้พักผ่อนและผ่อนคลายบ้าง ไม่ควรเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายทุกวันควรให้ร่างกายกล้ามเนื้อและสมองได้มีการผักผ่อนบ้างนั่นเอง เพือไม่ให้เกิดความเหนื่อยล้าที่มาเกินไปเพราะถ้าหากร่างกายเกิดความเหนื่อยล้ามากเกินไปก็อาจจะทำให้สุขภาพนั้นเสียได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  ดู E-SPORT

ข่าวที่น่าสนใจ

ประวัติ “The Answer” อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) 

เส้นทางชีวิตการเป็นนักกีฬาอาชีพของ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) กำลังพุ่งทะยานขึ้นไปสู่จุดสูงสุด แต่มันกลับสวนทางกับชีวิตนอกสนามของเขา ถึงแม้ผลงานในสนามจะดีจนเป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลก แต่ชีวิตส่วนตัวของเขากลับมีปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งเรื่องที่เขาเข้าไปพัวผันกับพวกกลุ่มอันธพาล หรือแก๊งสเตอร์ มีปํยหาเรื่องทะเลาะวิวาท

แถมที่ร้ายแรงที่สุดคือถูกจับกุมในข้อหามีกัญชาและอาวุธปืนผิดกฎหมายอยู่ในครอบครอง มีปัญหาเรื่องวินัยในการมาซ้อม ทั้งขาดซ้อม และมาสาย ทำให้มีปัญหาผิดใจกับโค้ช แลร์รี่ บราวน์ (Larry Brown) จนหลายๆ ครั้งมีข่าวลือออกมาว่าทางต้นสังกัดอย่าง ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ (Philadelphia 76ers) ทนกับพฤติกรรมของเจ้าตัวไม่ไหวและต้องเทรดเขาออกจากทีม

แต่จนแล้วจนรอด อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson)

ก็ยังคงได้ใส่ยูนิฟอร์มของ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ (Philadelphia 76ers) ลงสนามต่อไป และมันเป็นเหมือนหอกที่แทงใจเหล่าบรรดาทีมงาน และโค้ชของทีม เพราะเมื่อยามที่ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) สวมร้องเท้าลงไปในสนาม เขากลายเป็นคนที่ทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อชัยชนะ และกลายเป็นคนที่ทีมขาดไม่ได้เลย จนถึงช่วงฤดูกาล 2000 – 2001 ฤดูกาลที่เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) อย่างแท้จริง

หลังจากโลดแล่นอยู่ในลีก NBA ถึง 5 ปีเต็ม อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson)

กลายมาเป็นซุปเปอร์สตาร์แบบเต็มตัว เขาทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างสุดยอด ทำแต้มเฉลี่ย 31.1 ตลอดทั้งฤดูกาล พาทีมที่เต็มไปด้วยนักกีฬาธรรมดาคว้าแชมป์สาย ด้วยสถิติชนะ 56 แพ้ 26 และผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1983 ในนัดชิง ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ (Philadelphia 76ers) ต้องเจอกับยอดทีมในยุคนั้นอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส (LA Lakers) ที่ตอนนั้นมีคู่หูทองคำอย่าง โคบี้ ไบรอันท์ (Kobe Bryant) และ แชคิลล์ โอนีล (Shaquille O’Neal) เป็นผู้นำทีม อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson)

สามารถพาทีมสู้กับ แอลเอ เลเกอร์ส (LA Lakers) ได้อย่างสูสี แต่จนแล้วจนรอด ทีมของเขาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ ถึงยังไงด้วยผลงานที่สุดยอดของ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) เขาได้รับตำแหน่ง MVP และ MVP All Star ไปครอง นั่นทำให้หลายๆ คนเรียกเขาว่า “ราชาไร้บัลลังก์”

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "หงส์แดง" เขาร้ายกาจอย่างไร

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” เขาร้ายกาจอย่างไร

เป็นที่น่าจับตามมองมากที่สุดสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” เขาร้ายกาจอย่างไร เพราะว่าตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์นี้ เขาเข้ามามีบทบาทที่อังกฤษ เมื่อปี 2015 เขาก็ได้สร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนร่วมอาชีพของเขา ด้วยการทำให้ตกงานหลายรายด้วยกัน

สลาวิซ่า โยคาโนวิช (ฟูแล่ม, พฤศจิกายน 2018)

เนื่องจากโยคาโนวิช พา เขาพาทีม ฟูแล่ม บุกเข้าไปแพ้ ลิเวอร์พูลด้วยสกอร์ 0-2ซึ่งนั้นก็เป็นเหตุทำให้ทีมรั้งท้ายของตารางพรีเมียร์ลีกและนั้นก็เป็นเหตุที่ทำให้ย็อคก้าโดนเจ้าสัวน้อยปลดออกจากตำแหน่งในทันที

ต่อจากนั้นก็ได้มีการแต่งตั้งให้เคลาดิโอรานิเอรี่ มาคุมแทนในเวลาต่อมา แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นมาเลย จึงทำให้เคลาดิโอ รานิเอรี่ต้องออกไปอีกคนซึ่งนั้นก็เป็นการได้ สกอตต์ พาร์คเกอร์ มาคุมทีมแทน แต่ทว่ามันก็ยังไม่รอดอยู่ดีเพราะทีมก็ยังคงตกชั้นอยู่เหมือนเดิม

โชเซ่ มูรินโญ่ (แมนฯ ยูไนเต็ด, ธันวาคม 2018)

สำหรับศึกแดงเดือดนั้น ลิเวอร์พูล ได้โชว์ฟอร์มอันสุดยอดด้วยการเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดด้วยสกอร์ 3-1ซึ่งในเกมนี้หงส์แดงมีโอกาสยิงมากถึง 36 ครั้ง ซึ่งเป็นการยิงเข้าตรงกรอบไปถึง 11 ครั้ง ในขณะเดียวกันที่ปีศาจแดงพวกเขาได้ยิงเพียงแค่6 หน เท่านั้นเอง

แถมเป็นการยิงตรงกรอบไปได้แค่เพียง 2 ครั้งเท่านั้นเองนั้นจึงเป็นเหตุการณ์ที่ต้องทำให้เฮียมูต้องปลดตนเอง ซึ่งนั้นก็เป็นผลพวงที่ได้มาจากการโดน คล็อปป์ที่ดูแลทีมลิเวอร์พูลไล่อัดทีมของเขาจนหมดสภาพแบบนี้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นตอนที่ทีม ดอร์ทมุนด์ ได้มีการถล่มทีม เรอัล มาดริดในสกอร์ 4-1 เป็นเกม ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกในปี 2013

เพราะมันส่งผลให้ในเดือนถัดจากนั้นทีมราชันชุดขาวได้เป็นการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดด้วยการแยกทางกับ มูรินโญ่ ในเวลาต่อมาซึ่งหลังจากนั้น คล็อปป์ ก็ได้พาทีมของ ลิเวอร์พูลไปชนะทีม เชลซีในสกอร์ 3-1 ในเกมของพรีเมียร์ลีกใน ปี 2015ซึ่งเป็นเหตุทำให้ มูรินโญ่ โดนทีมสิงห์บลูส์ได้เอาเขาออกในเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์นั้น

มาร์โก ซิลวา (เอฟเวอร์ตัน, ธันวาคม 2019)

เขาเป็นกุนซือชาวโปรตุกีส ซึ่งก็เป็นเหยื่อของ คล็อปป์ อีกคนเช่นกัน เพราะหลังจากที่มาร์โก ซิลวานำทีม เอฟเวอร์ตันบุกไปแพ้ทีม ลิเวอร์พูลด้วยสกอร์ 2-5 ซึ่งส่งผลทำให้พวกเขามีแค่ 14 คะแนนจากเกมการแข่งขัน 15 เกมด้วยกันซึ่งเป็นการหล่นไปอยู่ท้ายตารางเป็นอันดับที่ 18 ของตารางเลยซึ่งในฤดูกาลนี้ทางเหล่าสโมสรก็มีการคาดหวังกับผลงานไว้สูงพอสมควรหลังจากที่ลงทุนไปค่อนข้างเยอะในช่วงที่ผ่านมานี้