ประวัติ “The Answer” อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson)
เส้นทางชีวิตการเป็นนักกีฬาอาชีพของ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) กำลังพุ่งทะยานขึ้นไปสู่จุดสูงสุด แต่มันกลับสวนทางกับชีวิตนอกสนามของเขา ถึงแม้ผลงานในสนามจะดีจนเป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลก แต่ชีวิตส่วนตัวของเขากลับมีปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งเรื่องที่เขาเข้าไปพัวผันกับพวกกลุ่มอันธพาล หรือแก๊งสเตอร์ มีปํยหาเรื่องทะเลาะวิวาท
แถมที่ร้ายแรงที่สุดคือถูกจับกุมในข้อหามีกัญชาและอาวุธปืนผิดกฎหมายอยู่ในครอบครอง มีปัญหาเรื่องวินัยในการมาซ้อม ทั้งขาดซ้อม และมาสาย ทำให้มีปัญหาผิดใจกับโค้ช แลร์รี่ บราวน์ (Larry Brown) จนหลายๆ ครั้งมีข่าวลือออกมาว่าทางต้นสังกัดอย่าง ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ (Philadelphia 76ers) ทนกับพฤติกรรมของเจ้าตัวไม่ไหวและต้องเทรดเขาออกจากทีม
แต่จนแล้วจนรอด อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson)
ก็ยังคงได้ใส่ยูนิฟอร์มของ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ (Philadelphia 76ers) ลงสนามต่อไป และมันเป็นเหมือนหอกที่แทงใจเหล่าบรรดาทีมงาน และโค้ชของทีม เพราะเมื่อยามที่ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) สวมร้องเท้าลงไปในสนาม เขากลายเป็นคนที่ทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อชัยชนะ และกลายเป็นคนที่ทีมขาดไม่ได้เลย จนถึงช่วงฤดูกาล 2000 – 2001 ฤดูกาลที่เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) อย่างแท้จริง
หลังจากโลดแล่นอยู่ในลีก NBA ถึง 5 ปีเต็ม อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson)
กลายมาเป็นซุปเปอร์สตาร์แบบเต็มตัว เขาทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างสุดยอด ทำแต้มเฉลี่ย 31.1 ตลอดทั้งฤดูกาล พาทีมที่เต็มไปด้วยนักกีฬาธรรมดาคว้าแชมป์สาย ด้วยสถิติชนะ 56 แพ้ 26 และผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1983 ในนัดชิง ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ (Philadelphia 76ers) ต้องเจอกับยอดทีมในยุคนั้นอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส (LA Lakers) ที่ตอนนั้นมีคู่หูทองคำอย่าง โคบี้ ไบรอันท์ (Kobe Bryant) และ แชคิลล์ โอนีล (Shaquille O’Neal) เป็นผู้นำทีม อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson)
สามารถพาทีมสู้กับ แอลเอ เลเกอร์ส (LA Lakers) ได้อย่างสูสี แต่จนแล้วจนรอด ทีมของเขาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ ถึงยังไงด้วยผลงานที่สุดยอดของ อัลเลน ไอเวอร์สัน (Allen Iverson) เขาได้รับตำแหน่ง MVP และ MVP All Star ไปครอง นั่นทำให้หลายๆ คนเรียกเขาว่า “ราชาไร้บัลลังก์”