หลายๆท่านที่ได้ติดตามชมฟุตบอลและเป็นแฟนบอลในลักษณะแบบพันธุ์แท้มาอย่างยาวนาน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสโมสรไหนก็แล้วตาม เชื่อเหลือเกินว่าหลายๆท่านมักจะเห็นบทบาทการทำทีมในรูปแบบที่แตกต่างกันไป โดยธรรมชาติแล้วการทำทีม จัดแผนการเล่น เลือกตัวนักเตะที่จะลงสนาม

หรือแม้กระทั่งการซื้อขายนักเตะ ส่วนใหญ่แล้ว สิทธิ์ในการตัดสินใจนี้มักจะมาจากผู้จัดการทีมแต่เพียงผู้เดียว เพราะตัวเค้าเองนั้นจะรู้ว่าในแต่ละนัดควรจะจัดทีมสู้ศึกกับฝ่ายตรงข้ามอย่างไร และควรจะเลือกใครลงสนามเพื่อให้เหมาะสมกับแท๊กติกที่วางแผนลงไปให้

รวมไปถึงการซื้อขายนักเตะ เนื่องจากผู้จัดการทีมจะรู้ว่าหากเค้ามีนักเตะประเภทไหนจึงจะเหมาะกับการหมุนเวียนและสไตล์การเล่นที่เค้าต้องการให้ลูกทีมลงเล่น

แต่พอมาเป็นฟุตบอลในยุคปัจจุบันนี้ เรามักจะได้ยินข่าวบ่อยๆว่า ประธานสโมสรหรือเจ้าของทีม มักจะชอบเข้ามาวุ่นวายในเรื่องการซื้อขายนักเตะด้วยเหมือนกัน และยิ่งไปกว่านั้น บางทีมประธานสโมสรหรือเจ้าของทีม ยังลงมานั่งอยู่ข้างสนามวุ่นวายกับการจัดตัวผู้เล่นหรือวางแผนเสียด้วยซ้ำ

จนบางที่ก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เนื่องจากสิทธิ์ในการคุมทีมและจัดตัวผู้เล่น รวมไปถึงการวางแผนนั้นอาจจะถูกริดรอนลงไปจนทำให้ ผู้จัดการทีมไม่อยากจะอยู่คุมทีมต่อ หรือแย่ไปกว่านั้น ก็เคยมีเหตุการณ์ถึงการด่าว่ากันและจากกันด้วยไม่ดีก็มีมาแล้ว ดังจะเห็นได้ในตัวอย่างของทีมการท่าเรือ

ในเคสล่าสุดของ โค้ช โชคทวี พรหมรัตน์ ที่ตอนที่คุมทีมนั้น ก็หอมหวานถ่ายรูปคู่กับประธานสโมสรอย่างมาดามแป้งอยู่เป็นประจำ แต่พอมีเรื่องราวต้องจากกัน ก็ออกมาสาดเสียเทเสีย ต่อว่ากันโน่นนั่นนี่ ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเด็นเรื่องของการถูกลิดรอนสิทธิ์ในการคุมทีม สุดท้ายเรื่องก็จบไม่สวย

หรือแม้แต่ประเทศอังกฤษ ในพรีเมียร์ลีกที่เรียกว่าเป็นลีกมืออาชีพสุดๆ ก็ยังมีปัญหาเรื่องนี้ อย่างเช่น ทีมวัตฟอร์ต ที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น แบบใกล้จะจมน้ำและหมดทางรอด แต่แล้วเจ้าของสโมสรก็ยังมาไล่ผู้จัดการทีมออกอีก ด้วยเหตุผลความไม่ลงรอยในการทำทีมที่คิดไม่ตรงกัน

เหมือนกับยิ่งกดหัวให้จมน้ำกันเข้าไปใหญ่ เพราะลองคิดดูว่า ทีมกำลังหนีตาย และเหลืออีกสองนัด จะรอให้จบก่อนก็ไม่ได้ สุดท้ายแล้วคงต้องดูว่าการข้ามเขตอำนาจของคนอื่นที่ตัวเองไม่ได้รับผิดชอบ จะส่งผลร้ายต่อสโมสรขนาดไหน

สนับสนุนโดย   Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ